วงแหวนเว็บ

neizod's speculation

insufficient data for meaningful answer

ธรรมชาติของการเข้ารหัสลับ

Tuesday, November 16, 2010, 11:39 PM

เมื่อเราลองวิเคราะห์ระบบรหัสลับนั้น เราจะกล่าวได้ว่ามันเป็น 5-ทูเพิลของ (P,C,K,E,D)

ทูเพิล (tuple) คำนี้อาจไม่คุ้นเคยและดูยุ่งยาก แต่ที่จริงแล้วมันเป็นเพียงวิธีการเขียนเรียงลำดับสมาชิกเท่านั้นเอง (ต่างจากเซตที่สมาชิกแต่ละตัวไม่มีความสำคัญในเรื่องลำดับ)

โดยสมาชิกของทูเพิลนั้นจะต้องมีจำนวนจำกัด n ตัวเสมอ n-ทูเพิลที่เราคุ้นเคยกันดีก็คือ 2-ทูเพิลที่อยู่ในรูป (x,y) หรือเรียกติดปากกันว่าคู่อันดับนั่นเอง

ดังนั้นการที่กล่าวได้ว่าระบบรหัสลับเป็น 5-ทูเพิล ก็หมายความว่าระบบนี้มีสิ่งที่สำคัญประกอบอยู่ 5 อย่าง ซึ่งมีความสัมพันธ์กันดังนี้

  1. P (Plaintext) คือ เซตจำกัดของข้อความอ่านออกที่เป็นไปได้
  2. C (Ciphertext) คือ เซตจำกัดของข้อความเข้ารหัสที่เป็นไปได้
  3. K (Key) คือ เซตจำกัดของกุญแจการเข้ารหัสที่เป็นไปได้
  4. สำหรับแต่ละ kK จะมี
    • ใช้กุญแจเข้ารหัส (Encryption) ekE โดยที่ ek:PC
    • ใช้กุญแจถอดรหัส (Decryption) dkD dk:CP
    • จากวิธีใช้กุญแจข้างต้น จะได้ว่า x=dk(ek(x)) สำหรับ xP

จากข้อ 4 นี้ จะหมายความว่า dk และ ek เป็นอินเวอร์สของกันและกันเสมอ และอาจเขียนได้ว่า dk=ek1

นอกจากนี้ ek และ dk ยังต้องเป็นฟังก์ชันแบบ 1-1 อีกด้วย (จับคู่กันและกันแค่คู่ต่อคู่เท่านั้น) เพราะถ้าไม่เป็นฟังก์ชัน 1-1 แล้ว เมื่อเราต้องการถอดรหัสกลับเป็นข้อความธรรมดา เราอาจไม่รู้เลยว่าคำที่ถูกต้องคืออะไรกันแน่ เพราะคำหนึ่งคำอาจถอดรหัสกลับออกมาได้หลายแบบนั่นเอง

จากที่เกริ่นมานี้หมายความว่า ถ้าเราสามารถล่วงรู้ ek ได้ เราก็จะหา dk เพื่อถอดรหัสลับได้เช่นกัน

หรือว่าถ้าเราสามารถดักจับข้อความลับ y ได้ และล่วงรู้ข้อความที่ถูกต้อง x บางส่วน เราอาจทดลองหา k ที่ทำให้ y=ek(x) จนสำเร็จ และหา dk ได้ด้วย

neizod

author