วงแหวนเว็บ

neizod's speculation

insufficient data for meaningful answer

อุปนัยสองชั้นกับ (nr)

Sunday, September 30, 2018, 11:17 PM

ตอนเรียนเรื่องการนับและการจัดหมู่ครั้งแรก เห็นนิยาม n! กับ n!/r! แล้วก็ไม่ได้ตะหงิดติดใจอะไร แต่พอมาถึง (nr)=n!/r!(nr)! แล้วแอบคาใจแปลกๆ ว่าทำไมตัวเลขตัวนี้ถึงเป็นจำนวนเต็มได้ … แน่นอนหละว่ามันเป็นการนับ ยังไงซะเราคงไม่นับสิ่งที่สนใจด้วยเลขที่ไม่ใช่จำนวนเต็มเป็นแน่ แต่มันจะมีวิธีการพิสูจน์แบบอื่นที่อธิบายได้รัดกุม ขจัดปัดเป่าข้อข้องใจนี้ทิ้งไป ไม่ชวนให้กลับมาสงสัยซ้ำๆ ในอนาคตมั้ย?

ผ่านมาน่าจะเกินสิบปี จู่ๆ ก็นึกวิธีพิสูจน์ที่ฟังดูเข้าท่า (อย่างน้อยก็กับตัวเอง) ที่ทำได้ผ่านการอุปนัยสองชั้น (double induction) ออก ซึ่งนี่เป็นท่าที่เจ๋งดีเวลาต้องการพิสูจน์บนตัวแปรหลายตัว


แต่ก่อนอื่น จะขอแนะนำสัญลักษณ์ที่ใช้งานได้สะดวกในเรื่องการนับ นั่นคือแฟคทอเรียลขาขึ้น xn โดยหลักการทำงานของมันก็คล้ายกับแฟคทอเรียลธรรมดาที่คูณจำนวนนับที่อยู่ติดกันขึ้นไปเรื่อยๆ เป็นจำนวน n ตัวนั่นแหละ เพียงแต่ว่าเลขตัวแรกในผลคูณมันไม่จำเป็นต้องเริ่มที่หนึ่งเท่านั้น แต่สามารถเริ่มที่จำนวนเต็มบวก x ใดๆ ก็ได้ ซึ่งก็คือ

xn=i=0n1(x+i)=x(x+1)(x+2)(x+n1)

นั่นก็คือ 1n=n! โดยมีข้อสังเกตสำคัญคือ เมื่อ n=0​ เราจะได้ผลคูณว่าง ซึ่งมันควรจะมีค่าเป็นเอกลักษณ์การคูณนั่นเอง

โครงร่างอย่างสังเขปสำหรับการพิสูจน์ด้วยอุปนัยสองชั้นในโจทย์ข้อนี้

กลับมาสนใจปัญหาหลักที่เราต้องการพิสูจน์ว่า (nr) เป็นจำนวนนับ ให้ n=r+k โดยที่ r,kN ดังนั้น

(nr)=(r+kr)=(k+1)rr!

หรือก็คือเราสามารถเปลี่ยนปัญหาดังกล่าวไปเป็นปัญหาที่ทัดเทียมกันได้ว่า “r! หารลงตัว1กับผลคูณของจำนวนธรรมชาติที่เขียนติดกัน r ตัว” นั่นก็คือเราต้องการพิสูจน์ว่า

rk[r!|(k+1)r]

ดังนั้น การอุปนัยชั้นแรกบน r ก็คือ

P(r):k[r!|(k+1)r]

ซึ่งเราย่อมเห็นได้ทันทีว่า P(0) จริงแน่นอน ด้วยสมมติฐานของการอุปนัย เราจะสมมติให้ P(r) จริง เพื่อที่จะพิสูจน์ว่า P(r+1) นั้นก็ต้องจริงด้วย

ถึงตอนนี้ เราจะทำการอุปนัยซ้อนลงไปอีกชั้นบน k ดังนี้

P(r,k):r!|(k+1)r

เราก็จะเห็นอีกว่า P(r+1,0) นั้นจริง (เพราะด้านขวาของการหารลงตัวก็คือนิยามของแฟคทอเรียลเลย) ทำให้เราตั้งสมมติฐานว่า P(r+1,k) จริงเพื่อพิสูจน์ P(r+1,k+1) ต่อไป

ความเจ๋งของการอุปนัยสองชั้นนี้ก็คือ ตอนที่เราตั้งสมมติฐานชั้นนอกว่า P(r) จริงนั้น เราจะได้ว่าสมมติฐานชั้นใน P(r,) ก็จะเป็นจริงไปหมดสำหรับทุกค่า ทันทีเลย (ทั้งที่เรายังพิสูจน์ชั้นในไม่เสร็จ!)2 เราจะใช้งานสมมติฐานชั้นนอก P(r) ที่เลือกค่าชั้นในเป็น =k+1 ดังนั้น

r!|(k+2)r

เพื่อความสะดวก ให้ sN เป็นผลหารจากการหารลงตัวดังกล่าว นั่นคือ sr!=(k+2)r

ถึงตรงนี้เราจะย้อนกลับมาดูสมมติฐานชั้นใน P(r+1,k) ที่บอกว่า

(r+1)!|(k+1)r+1|(k+1)(k+2)r(1)|(k+1)sr!

เนื่องจากจำนวนนับใดๆ หารพหุคูณของตัวมันเองลงตัว เลือกพหุคูณเป็น s บนตัวหาร (r+1)! หรือก็คือ

(r+1)!|s(r+1)!(r+1)!|(r+1)sr!

เพราะ (r+1)! หาร (k+1)sr! และ (r+1)sr! ลงตัวทั้งคู่ ดังนั้นเราไล่ (1) ต่อได้ว่า

(r+1)!|(k+1)sr!+(r+1)sr!|(k+1+r+1)sr!|(k+2+r)(k+2)r|(k+2)r+1

ทำให้เราสรุปได้ว่า P(r+1,k+1) จะเป็นจริงด้วยนั่นเอง ซ.ต.พ.


คิดบทพิสูจน์ซะซับซ้อนยืดยาว เพื่อที่จะไปเห็นว่าคนอื่นใช้อัตลักษณ์

(nr)=(n1r1)+(n1r)

มาพิสูจน์แบบอุปนัยธรรมดาๆ ก็ออกแล้ว 😂

  1. สัญลักษณ์การหารลงตัวนั้นให้ผลลัพธ์เป็นค่าความจริง/เท็จ (ในทำนองเดียวกับเครื่องหมายเท่ากับ) นอกจากนี้เรายังเขียนสลับฝั่งไม่เหมือนการหารเพื่อหาผลลัพธ์เชิงตัวเลขอีกด้วย พูดอีกอย่างก็คือ สัญลักษณ์ a|b จะมองว่า a นั้นเป็นตัวประกอบของ b 

  2. สำหรับเด็กคอมฯ อาจลองนึกถึงกำหนดการพลวัตรที่เราไล่ถมตารางสองมิติทีละแถวเอาก็ได้ 

Revision notes:

  • March 11, 2024:

    ปรับปรุงคำอธิบายเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น(?)

neizod

author